พระร่วงยืนเศียรโต สนิมแดง กรุท่าเสด็จ สุพรรณบุรี

บ้านท่าเสด็จ อยู่ที่ตำบลสระแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี แต่เดิมนั้นเรียกกันว่าบ้านท่าว้า-เขาดิน ต่อมาได้ชื่อเสียใหม่ว่า บ้านท่าเสด็จ เพื่อเป็นอนุสรณ์ในการที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เสด็จประพาสสระศักดิ์สิทธิ์เมื่อปี พ.ศ.2450 ในสมัยนั้นบริเวณแถบนี้ยังเป็นป่าสูงรกทึบมีสัตว์ป่าชุกชุม แม่น้ำที่ไหลผ่านเรียกว่าแม่น้ำท่าว้า เป็นแม่น้ำเก่าแก่ ต้นแม่น้ำเรียกว่าแม่น้ำด้วน อยู่ในเขตอำเภอสามชุก ไหลผ่านลงมายังบ้านท่าใหญ่ บ้านท่าพิกุล บ้านคอย สวนสัก ตลิ่งชัน หัวโคก บ้านท่าว้า-เขาดิน บ้านท่าช้าง บ้านวังกระทุ่ม บ้านวังฆ้อง บ้านสวนแตงศาลาขาว เรื่อยลงไปทางใต้บรรจบกับแม่น้ำจระเข้สามพัน ผ่านตลาดบางลี่ออกปากคลองสองพี่น้องลงสู่แม่น้ำสุพรรณ ในปัจจุบันกลายเป็นชุมชนใหญ่ มีแหล่งโบราณสถานคือสระศักดิ์สิทธิ์ 6 สระมีชื่อดังนี้ สระแก้ว สระคา สระยมนา สระเกษ สระอมฤต 1 สระอมฤต 2 เมื่อปีพ.ศ.2513 กรมศิลปากรทำการบูรณะสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ แล้วปลูกต้นไม้ให้ความร่มรื่นแก่บริเวณสระ สันนิษฐานว่าบริเวณแถบนี้น่าจะเคยเป็นแหล่งชุมชนใหญ่มาแต่ในอดีต

ในปีพ.ศ.2513 ห่างจากท่าเสด็จไปประมาณ 400-500 เมตร ได้มีรถกรมชลประทานขุดร่องน้ำทิ้งไว้ พวกเด็กๆ ที่นำควายไปเลี้ยงแถบนั้น พบเห็นพระร่วงเป็นจำนวนมากกระจัดกระจายอยู่ทั่วบริเวณ ก็เก็บเอามาเล่นกันและนำไปแลกขนมในตลาดท่าเสด็จ พ่อค้าคนหนึ่งได้ขอซื้อเอาไว้จำนวนหนึ่ง จึงนำพระไปยังตัวจังหวัด ให้พวกนักสะสมดู ก็รู้ว่าเป็นพระเก่าจึงกลับไปกว้านซื้ออีก ข่าวรู้ไปถึงพวกนักสะสมจึงมีผู้คนเข้าไปรับซื้อกันมาก จึงทำให้ราคาพระเครื่องสูงขึ้นจากไม่กี่ร้อยจนราคาเป็นพันบาท ภายในเวลาไม่กี่วันพระก็ได้หมดไปจากบ้านท่าเสด็จ ในปัจจุบันสนนราคาอยู่ที่หลักหมื่น

พระร่วงของบ้านท่าเสด็จ นี้เป็นพิมพ์พระร่วงเศียรโต พิมพ์เดียวกับพระร่วงพิมพ์เศียรโตของกรุวัดปู่บัว บ้านหนองแจง และกรุวัดราชเดชะ แต่พระของกรุบ้านท่าเสด็จ องค์พระจะไม่ค่อยมีสนิมแดง มีแต่สนิมไขขาวเคลือบอยู่ ถ้าพระร่วงของกรุนี้มีสนิมแดงจัดแบบกรุอื่นๆ จะมีราคาสูงกว่านี้มาก วันนี้ผมได้นำรูปพระร่วงเศียรโตของกรุบ้านท่าเสด็จมาให้ชมกันหนึ่งองค์ครับ ข่าวพระเครื่อง

ด้วยความจริงใจ
แทน ท่าพระจันทร์ ข่าวสด